วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รู้เท่าทันเครื่องถ่ายเอกสาร ป้องกันตัวเองได้เยอะ ตอนที่ 1

สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องถ่ายเอกสารและอันตรายจาการใช้เครื่องถ่ายเอกสารนั้น ขออนุญาตแบ่งเป็น 2 ตอนครับ เพราะเนื้อหาค่อนข้างยาว มาเริ่มกันที่ตอนที่ 1 เลยครับ

อันตรายจากเครื่องถ่ายเอกสาร

ทราบหรือไม่ว่าเครื่องถ่ายเอกสารมีอันตรายเหมือนกัน ถึงแม้ว่าการทำงานในสำนักงานจะไม่มีอันตรายร้ายแรงแฝงตัวอยู่เหมือนการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่างานออฟฟิศจะมีความปลอดภัยไปทั้งหมด อย่างน้อยก็มีคำถามเกิดขึ้นอยู่เสมอว่า อุปกรณ์สำนักงานบางชนิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องถ่ายเอกสารที่มีแสงจ้าและกลิ่นสารเคมีระเหยออกมาตลอดเวลานั้นจะมีผลต่อสุขภาพหรือไม่ ?

วันนี้ทางเราจึงได้นำสาระน่ารู้เกี่ยวกับอันตรายจากเครื่องถ่ายเอกสารมานำเสนอเพื่อที่จะได้ทราบถึงอันตรายจากเครื่องถ่ายเอกสารที่มีอยู่จริง
แต่ผลกระทบต่อสุขภาพผู้ใช้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่ามีการปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยหรือไม่
โดยทั่วไปแล้วเมื่อมีการใช้เครื่องถ่ายเอกสารแต่ละครั้งจะมี "สภาพที่ไม่ปลอดภัย" ปรากฏออกมานั่นคือ

1. ก๊าซโอโซน เป็นการทำให้เกิดการระคายเคือง และการสัมผัสก๊าซนี้นาน ๆ จะเป็นอันตรายต่อระบบหายใจและระบบประสาทได้
2. ฝนผงหมึก เป็นส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตราย รวมถึงสารที่อาจก่อมะเร็ง และสารที่เป็นสาเหตุของภูมิแพ้
3. แสงเหนือม่วง (UV Light) มักเป็นอันตรายต่อตา การสัมผัสแสงจ้าจากการถ่ายเอกสารเป็นเวลานานจะเป็นสาเหตุของการอาการปวดตาและปวดศีรษะ

โอโซนจากเครื่องถ่ายเอกสาร

โอโซนจากเครื่องถ่ายเอกสารเกิดขึ้นจากการอัดและปล่อยประจุไฟฟ้าที่ลูกกลิ้งกระดาษ และบางส่วนที่เกิดจากการปล่อยแสงเหนือม่วงจากหลอดไฟพลังงานสูงของ
เครื่องถ่ายเอกสาร(แสงเหนือม่วงจะทำใหก๊าซออกซิเจนรวมกันเป็นโอโซนได้ง่ายขึ้น) แต่ในสภาพปกติหรือในสำนักงานทั่วไป
โอโซนจะสลายตัวเป็นออกซิเจนภายใน 2-3 นาทีซึ่งอัตราการสลายตัวจะขึ้นอยู่กับระยะเวลา อุณหภูมิ (อุณหภูมิสูงสลายตัวได้เร็วขึ้น)
การระบายอากาศและพื้นวัตถุที่โอโซนจะสลายตัวได้ถึง 100 หากสัมผัสถ่านที่มีประจุ (Activated Carbon)
ในเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นใหม่ๆ มักจะมีแผ่นกรองประเภท Activated Carbon Filter เพื่อสลายโอโซนก่อนปล่อยออกจึงมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้มากขึ้น

ผงหมึก 

ผงหมึกที่ใช้ในเครื่องถ่ายเอกสารทั่วไปในปัจจุบัน (ระบบแห้ง) เป็นผงหมึกประเภทผงคาร์บอนดำ 10% ผสมกับพลาสติกเรซิน ซึ่งมีอันตรายต่อสุขภาพ
จึงควรระมัดระวังขณะเติมผงหมึก รวมทั้งความสะอาดและกำจัดผงหมึกที่ใช้แล้วโดยควรทิ้งในภาชนะบรรจุมิดชิด ไม่ควรทิ้งลงในตะกร้าหรือถังขยะในสำนักงาน
การหายใจเอาผงหมึกเข้าไปจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบหายใจ มีการไอและจาม นอกจากนี้สารไนไตรไพรีนซึ่งพบในผงคาร์บอนดำ และสารไนไตโตรฟลูออรีน (TNF)
ก็เป็นที่เข้าใจกันว่าเป็นสารก่อมะเร็ง และเป็นสารที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมมีผลต่อทารกในครรภ์ ผู้ที่มีหน้าที่ถ่ายเอกสารเป็นประจำหรือ
ผู้ที่มีหน้าที่เปลี่ยนถ่ายผงหมึกควรได้รับการฝึกอบรมในเรื่องความปลอดภัยในการใช้เครื่องถ่ายเอกสาร ควรใช้ถุงมือในการสัมผัสกับผงหมึก หลีกเลี่ยงการสูดเอาผงหมึกเข้าไป
ในกรณีที่เครื่องถ่ายเอกสารมีปัญหาเช่น พบผงหมึกเปื้อนติดกระดาษเป็นจำนวนมากควรหยุดเครื่องและติดต่อบริษัทเพื่อรับการซ่อมบำรุงทันที
สารเคมีอื่น ๆ ที่อาจพบได้ในเครื่องถ่ายเอกสาร ได้แก่ เซเลเนียม แคดเมี่ยมซัลไฟด์ ซิงไดออกไซด์และโพลิเมอร์บางตัว แต่มีจำนวนน้อยมากในเครื่องถ่ายเอกสารสภาพปกติ

แสงเหนือม่วง 

แสงเหนือม่วง (UV Light) แผ่รังสีออกมา จากหลอดไฟพลังงานสูงภายในเครื่องขณะที่มีการถ่ายเอกสารซึ่งทำให้เกิดการอักเสบของกระจกตาและมีผื่นคันตามผิวหนัง
แต่ปกติแสงเหนือม่วงจะไม่ทะลุผ่านกระจกที่วางเอกสารต้นฉบับ เพราะมีพลังงานต่ำและถูกดูดกลืนและถูกดูดกลืนไป อันตรายจากแสงเหนือม่วงจะเกิดขึ้นได้หากมอง-
แสงที่ทะลุออกมาจากกระจก ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ แสบตาดังนั้นในการถ่ายเอกสารทุกครั้งควรปิดฝาครอบให้มิดชิด

นอกจากที่กล่าวไปแล้ว สิ่งที่อาจเป็นอันตรายของเครื่องถ่ายเอกสาร ได้จากความร้อนจากการถ่ายเอกสารเป็นเวลานาน ในสถานที่ไม่มีการถ่ายเทอากาศ และเรื่องเสียงดัง
ในเครื่องถ่ายเอกสารขนาดใหญ่อาจดังถึง 80 เดซิเบล 3 


นี้ก็เป็นสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่เกิดจากเครื่องถ่ายเอกสาร หวังว่าคงมีประโยชน์กับหลายๆ ท่านที่มีโอกาสใช้งานเครื่องถ่ายเอกสาร และรวมถึงศูนย์ให้บริการถ่ายเอกสารทั่วๆ ไปน่ะครับ คราวหน้าเราจะมาพูดถึงแนวทางในการใช้เครื่องถ่ายเอกสารอย่างปลอดภัยครับ วันนี้ขอบคุณมากครับ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกสารวิชาการกองอาชีวอนามัย กรมอนามัย

อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับร้านถ่ายเอกสารคลิกเลย

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แนะนำการเปิดร้านถ่ายเอกสาร ตอนที่ 3 การกำหนดราคาค่าบริการ

ก่อนอื่นๆ ต้องขอโทษด้วยน่ะครับที่หายไปนานเลย เนื่องจากติดภาระกิจเรื่องธุรกิจที่เพิงเปิดทำการครับ  สำหรับคราวนี้ก็จะเป็นตอนที่ 3 ซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายของการแนะนำการเปิดร้านถ่ายเอกสารครับ ซึ่งจะเป็นเรื่องของการกำหนดราคาที่จะแนะนำต่อไปนี้ เป็นราคาโดยทั่วไปน่ะครับ แต่ทั้งนี้ราคาต่างๆ ของแต่ละร้านก็จะแตกต่างกันไปตามทำเลและสภาพแวดล้อมทางการแข่งขันครับ

ค่าถ่ายเอกสาร เอ-4 หน้าละ 50 ส.ต. ตั้งแต่ 20 แผ่นขึ้นไป แต่ถ้าเป็นทำเลที่มีการแข่งขันสูง ปริมาณงานเยอะมากๆ ก็อาจจะเป็นหน้าละ 35 ส.ต. ก็เป็นได้ครับ

เอฟ-14 หน้าละ 1 บาท

บี-4 หน้าละ 2 บาท หน้าหลังก็ 3 บาท

เอ-3 หน้าละ 2 บาท  หน้าหลังก็ 3 บาท

บัตรประชาชน  ทะเบียนบ้าน  หน้าหลัง 1 บาท

ค่าเครื่องบัตร เริ่มจาก 10 บาท

ถ้า เอ-4 พื้นฐาน 20 บาท ราคาอ าจไม่กำหนดแน่นอน ถ้าลูกค้ามาเป็น 100 แผ่นขึ้นไปก็ลดลงมาอีก

ค่าเข้าเล่มสันห่วง เริ่มจาก 10 บาท-60 บาท แล้วแต่ลูกค้าอาจมีเพิ่มปกสี ปกใสก็คิดเพิ่มเข้าไป

ค่าส่งแฟ๊กซ์ เริ่มจาก 10 บาทต่อแผ่น ต่างจังหวัดแล้วแต่ใกล้ไกล เริ่มจากแผ่นละ 20 บาทถึง 40 บาท

ค่าปริ้นท์งาน หน้าละ 2 บาท ถ้าจำนวนมากก็ลดลงตามจำนวน

ปรินซ์สี เริ่มจาก 5 บาท-60 บาทแล้วแต่ใช้สีมากสีน้อย ราคาปรินซ์ไม่แน่นอน

ค่าพิมพ์งานเริ่มจาก 10 บาท ถึงค่าออกแบบต่างๆ เป็นหลักพัน สำหรับคนทำกราฟฟิกเป็น
บางคนเจ้าของร้านใช้คอมไม่เป็นไม่ต้องกังวลหัดกดแป้นคีย์บอร์ดหัดพิมพ์ทุกวันก็เป็นเอง

ค่าพิมพ์นามบัตร สีดำไม่สมควรต่ำกว่า 150 บาทต่อกล่อง สี 250 บาท ถ้าลูกค้าสั่งเยอะๆ ค่อยลดราคา ถ้าเปิดในห้าง ราคาอัพมากกว่านี้

อย่างที่บอกครับราคาดังกล่าวเป็นราคาอัตราค่าบริการของร้านถ่ายเอกสารข้างต้นที่กำหนดขึ้นมา แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับต้นทุนของแต่ละร้าน ทำเล และสภาพการแขงในพื้นที่ของร้านท่าน
เพราะอย่างร้านผมเองเวลาถ่ายเอกสารขาวดำในปริมาณมากๆ ก็มีต่ำถึง 30 ส.ต. ต่อหน้าครับ

ยังไงก็ขอท่านกำหนดราคาจากต้นทุนของท่านเองเป็นหลักน่ะครับ แต่อย่าลืมใส่ใจเรื่องบริการและคุณภาพให้สอดคล้องกับราคาด้วยน่ะครับ เพราะนั้นจะตัวที่ตัดสินการตัดสินใจของลูกค้า

ขอให้โชคดีครับ